Wellnex™

Wellnex™

Wellnex™ เป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1 ผลิตโดยบริษัท นิตะเจลาติน จำกัด โดยผ่านการค้นคว้า วิจัย ทางวิทยาศาสตร์ และ ทางการแพทย์ ของ บริษัท นิตะ เจลาติน และ มหาวิทยาลัยเกียวโต ในประเทศญี่ปุ่น ให้การยอมรับถึงประสิทธิภาพ โดยมีงานวิจัยเผยแพร่ใน วารสารทางการแพทย์ผิวหนังหลายฉบับในหัวข้อ

1.Digestibility and stability of key di-peptides in collagen peptides  การดูดซึมในรูปแบบ ไดเปปไทด์

2.Skin Health สุขภาพผิว

3.Joint Health สุขภาพข้อต่อ

4.Bone Health สุขภาพกระดูก

5.Wound care การรักษาแผลเป็น

1.Digestibility and stability of key di-peptides in collagen peptides  การดูดซึมในรูปแบบ ไดเปปไทด์

ด้วยเทคโนโลยีของ Nitta Gelatin Inc.(Japan) ในการใช้เอนไซม์เฉพาะในการสกัด Collagen triple helix ให้อยู่ในรูป Collagen Peptide ที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว ในรูปแบบ ไดเปปไทด์ (Di-peptide) ที่ช่วยกระตุ้นการทางานของเซลล์ผิว ข้อต่อ และ กระดูกได้ทันที

Absorption - low

Absorption – High Function - High

Glycine 25.1%

Proline 13.2%

Hydroxyproline 10.4%

Arginine 9.0%

Glutamine 10.0%

คอลลาเจนประกอบด้วยกรดอะมิโน 18 ชนิด กรดอะมิโนที่แสดงความเป็นคอลลาเจนมาจากกรดอะมิโน 3 ชนิด เช่น Proline, Hydroxyproline, Glycine และใน Wellnex มีสัดส่วนของกรดอะมิโน 3ชนิดนี้สูงถึง 48.7%

ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น

small intestinal mucosal cell

Wellnex สามารถดูดซึมได้รวดเร็วกว่า คอลลาเจนทั่วไป

2.Skin Health/สุขภาพผิว

ตัวอย่าง ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ไดเปปไทด์ กับการสังเคราะห์ กรดไฮยาลูโรนิค

ผลการศึกษาพบว่า :

1.Pro-Hyp ไดเปปไทด์ จากคอลลาเจนเปปไทด์ จะช่วยเพิ่มการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิค และ การเพิ่มจำนวนของไฟโบรบราส ได้ดีกว่า ไตรเปปไทด์ จาก คอลลาเจนเปปไดท์

2. Pro-Hyp ไดเปปไทด์ใน ปริมาณ 200 nmol/ml จะเพิ่มการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิค ได้สูงกว่ากลุ่มควบคุม ประมาณ 3.8 เท่า

3.ไดเปปไทด์ คู่ของ Pro-Hyp จะช่วยกระตุ้น การเพิ่มจานวนของ ไฟโบรบราส

ในเซลล์ทดลอง ได้มากที่สุด มากกว่า ไตรเปปไทด์

4.ไดเปปไทด์ คู่ของ Pro-Hyp ปริมาณที่ 50 nmol/ml ขึ้นไปจะช่วยเพิ่ม จำนวนของ

ไฟโบรบราสได้

 

ตัวอย่าง ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง ไดเปปไทด์ กับการสังเคราะห์ กรดไฮยาลูโรนิค

5. ไดเปปไทด์ คู่ของ Pro-Hyp จะกระตุ้นการสังเคราะห์ไฮยาลูโรนิค ได้มากที่สุด

6. ไดเปปไทด์ คู่ของ Pro-Hyp จะแสดงออกต่อยีน HAS2 บน mRNA ประมาณ 24 ชม.

7. ปริมาณ Pro-Hyp 200 nmol/mL จะแสดงออกต่อยีน HAS2 ได้สูงสุด

8. Pro-Hyp ไดเปปไทด์ จากคอลลาเจนเปปไทด์ จะช่วยเพิ่มการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิค ได้ดีกว่า ไตรเปปไทด์จากคอลลาเจนเปปไดท์

3.Joint Health/สุขภาพข้อต่อ

Wellnex Clinical Studies :

Di-peptide คู่ PO,OG จะทำงานโดยตรงต่อเซลล์ข้อต่อ และ เซลล์กระดูก osteoclasts & osteoblasts

Di-peptide ยับยั้งการเสื่อมของคอนโดรไซต์ (Chondrocytes)

Di-peptide กระตุ้นการสร้างไกลโคสะมิโนไกลแคน(GAG)สร้างสารหล่อลื่นในข้อต่อ

Di-peptide บำรุงกระดูกให้แข็งแรง

ATDC5 Pre-chondrocyte

ALP:Differentiation of Calcification

MechanismOA (osteoarthritis)

จากผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ (Osteoarthritis and Cartilage (2009) พบว่า ไดเปปไทด์ (Pro-Hyp) ในคอลลาเจนเปปไทด์จะช่วยป้องกันการเสื่อมของกระดูกอ่อน และการบางลงของกระดูกอ่อน ยับยั้งการเสื่อมของคอนโดรไซต์ (Chondrocytes) และกระตุ้นการสร้างไกลโคสะมิโนไกลแคน (GAG) ซึ่งมีคุณสมบัติดูดน้ำจึงทำให้เนื้อเยื่อสามารถทนทานต่อแรงกดดันได้ ดังแสดงในรูป

ATDC5

Pre-chondrocyte

AB:GAG Production เมื่อเซลล์ ได้รับ Pro-Hyp(PO) จะเพิ่ม การผลิต ไกลโคสะมิโนไกลแคน (GAG) จึงส่งผลให้น้ำในข้อมีปริมาณมากขึ้น

ALP:Differentiation of Calcification เมื่อเซลล์ ได้รับ Pro-Hyp(PO) จะลดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์คอนโดรไซท์ที่ผิดปกติ

AR:Calcification เมื่อเซลล์ได้รับ Pro-Hyp(PO) จะพบการสะสมของหินปูนที่ผิดปกติลดลง

 

 

 

AB:GAG Production Wellex จะเพิ่มการผลิต ไกลโคสะมิโน ไกลแคน(GAG)

จึงส่งผลให้น้ำในข้อมีปริมาณมากขึ้น

ALP:Differentiation of Calcification Wellnex จะลดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ คอนโดรไซท์ ที่ผิดปกติ

AR:Calcification Wellnex จะลดการ สะสมของหินปูนที่ผิดปกติลดลง

 

ศึกษาเพื่อวัดผลการรับประทาน Wellnex CPT มีผลต่อการเพิ่มความหนาของชั้น Articular Cartilage โดย ทดสอบใน

หนูทดลองที่มีภาวะ OA C57BL/6J

mouse ♂ n=6 3week

“ พบว่า  เมื่อให้ปริมาณ CPT แก่หนูที่มีภาวะ OA จะช่วยให้ Articular Cartilage มีความหนามากขึ้น ”  จึงทำให้ข้อต่อของหนูมีการพัฒนาตัวที่ดีมากขึ้น

 

 

PO prevents differentiation of ATDC5 cells at the mature chondrocyte stage

 

Wellnex™ collagen peptide ในปริมาณ 10 กรัม สามารถป้องกัน กระดูกอ่อนที่ข้อ และเนื้อกระดูกแข็งใต้ข้อไม่ให้ถูกทำลาย จึงช่วย ลดอาการปวดข้อเข่า โดยผู้ป่วย จะเจ็บเข่าน้อยลง อาการที่ดีขึ้นภายใน 45 วัน และได้วัดผล X-Ray พบว่า มีบริเวณช่องว่างที่ข้อเข่ามากขึ้น แสดงว่า ข้อเข่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น

4.Bone Health/สุขภาพกระดูก

ไดเปปไทด์ กับการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง

เมตาบอลิซึมของกระดูกเกิดจาก การทำงานร่วมกันของ2 เซลล์

1.Osteoclasts  มีหน้าที่สลายกระดูก

2.Osteoblasts  มีหน้าที่สร้างโปรตีน (รวมทั้งคอลลาเจน) มาก่อสร้างเป็นส่วนของกระดูกใหม่ ซึ่งเซลล์ทั้งสองตัวนี้ต้องทำงาน สมดุลและสอดคล้องกัน ณ เวลาหนึ่งๆ จะเป็นตัวบ่งชี้ถึง มวลกระดูก (Bone mass) ณ เวลานั้นๆ แต่เมื่ออายุ 30-40 ปี อัตราการสลายกระดูกจะเพิ่มขึ้น และ อัตราการสร้างกระดูกจะลดลง อันจะนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนในวัยชรา (Senile osteoporosis)

จากงานวิจัยพบว่า

การรับประทานไดเปปไทด์  P-O (Pro-Hyp) และ O-G (Hyp-Gly)จะช่วยป้องกันการเสื่อมของกระดูก  โดยทำงานตรงต่อเซลล์ สร้าง Osteoblasts และเซลล์ ทำลาย Osteoclasts ทำให้กระดูกมีเมตาบอลิซึมดำเนินไปอย่างสมดุล

5. Wound care/การรักษาแผลเป็น

Wellnex กับการรักษาแผลเป็น

โดย ทดลองกับกลุ่มอาสาสมัคร ที่เป็นรอยแผลเป็น

เพศหญิง 13 คน อายุ 35-50 ปี ปริมาณที่ใช้ทดสอบ 10 กรัม / วัน (แบ่งเป็น เช้า 5 กรัม เย็น 5 กรัม) ระยะเวลา 8 สัปดาห์ พบว่า รอยแผลเป็นจางลง และ มีขนาดเล็กลง

 

Raw material

Tilapia are mainly freshwater fish.

China is the largest tilapia producer in the world.

Whole tilapia fish can be processed into skinless, boneless fillets as food.

 

เปรียบเทียบ ปริมาณ กรดอะมิโนที่สาคัญ เช่น โพรลีน และ ไฮดรอกซีโพรลีน ในปลาธิราเปีย                   เทียบกับ ปลาทะเล พบว่า

PRO

Tilapia > Pollock > Salmon

HYP

Tilapia > Pollock > Salmon

 

 

 

 

“เปรียบเทียบปริมาณกรดอะมิโนไฮดรอกซีโพรลีน ในปลาธิราเปีย กับปลาทะเล พบว่า ปลาธิราเปีย จะมีปริมาณสูงที่สุด สูงกว่าปลาสเนปเปอร์ ปลาโพรลอก และ ปลาแซลมอน”

 

 

 

 

“เปรียบเทียบ ปริมาณกรดอะมิโนไฮดรอกซีโพรลีน ในปลาธิราเปีย กับปลาทะเล พบว่า ปลาธิราเปีย จะมีปริมาณสูงที่สุด สูงกว่าปลาสเนปเปอร์ ปลาโพรลอก และ ปลาแซลมอน”

 

 

ความแตกต่างของ Type I and Type II คอลลาเจน

Type II จะไม่ใช่คอลลาเจนไฮโดรไลซ์ เพราะมันจาเป็นต้องรักษาความเป็น Triple helical structure โดยมี Antigen  ในเรื่องประสิทธิภาพพบว่า

Collagen Type II จะช่วยเรื่องโรครูมาตอยด์ เท่านั้น ส่วน คอลลาเจน Type I จะช่วยเรื่องโรคข้อเข่าเสื่อม

Leave a Reply

Your email address will not be published.